การดื่มกาแฟนั้น มีประโยนช์ต่อคุณ

การดื่มกาแฟนั้น มีประโยนช์ต่อคุณ

การดื่มกาแฟนั้น มีประโยนช์ต่อคุณ ตอนเช้าวันทำงานอันแสนวุ่นวาย มนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่มักจะปลุกตัวเองให้ตื่นเต็มตาด้วย “กาแฟ” สักแก้วหนึ่ง ก่อนไปลุยงานให้ได้เต็มที่ บางคนดื่มกาแฟแทนมื้อเช้าด้วยซ้ำ รวมถึง “สาวออฟฟิศ” เองก็ดื่มกาแฟกันแทบทุกวัน

ว่าแต่…ทำไมเจ้าเครื่องดื่มสีดำ รสขม กลิ่นหอมอย่าง “กาแฟ” ถึงได้ถูกใจหนุ่มสาวออฟฟิศทั่วโลกได้ขนาดนี้? ลองมาไล่เรียงกันดูตั้งแต่กาแฟชื่อดังของบราซิล กาแฟลาตินอเมริกา กาแฟขี้ชะมดของอินโดฯ กาแฟขี้ช้าง และล่าสุดกับ…“กาแฟขี้ควาย” กาแฟชื่อดังตัวใหม่ของประเทศไทย

รวมไปถึงวิธีเลือกดื่มกาแฟ ดื่มแบบไหนอร่อยที่สุด? ดื่มแค่ไหนถึงจะพอเหมาะพอดี? แล้วดื่มแบบไหน? ถึงจะทำให้ “สุขภาพดี” Thairath Women ชวนคุณมาหาคำตอบเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ไปพร้อมกัน

เครื่องดื่มสีดำ รสขม หอมกรุ่น

“กาแฟ” เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากผลของต้นกาแฟ ภายในผลกาแฟก็จะมีเมล็ดซ่อนอยู่ 2 เมล็ด ต้นกาแฟเป็นไม้พุ่มไม่ผลัดใบขนาดเล็กในตระกูล Coffea โดยมีหลากหลายสปีชีส์ด้วยกัน แต่สายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุด ได้แก่ กาแฟอาราบิก้า ที่ให้กลิ่มหอมกรุ่นติดจมูก

แต่มีรสชาติไม่ค่อยเข้ม และกาแฟโรบัสต้า ที่ให้รสชาติเข้มข้นกว่า มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  ปัจจุบันมีการปลูกต้นกาแฟมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดยผลกาแฟเขียวหรือกาแฟซึ่งยังไม่ผ่านการบ่มและคั่ว เป็นหนึ่งในสินค้าทางการเกษตรที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก สายพันธุ์กาแฟทั้งอาราบิก้า

และโรบัสต้า มีการปลูกในลาตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปแอฟริกา เมื่อสุกแล้ว ผลดังกล่าวจะถูกเก็บรวบรวมนำไปผ่านกรรมวิธีและทำให้แห้ง หลังจากนั้นเมล็ดจะถูกคั่วในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรสชาติที่ต้องการ และจะถูกบดและบ่มเพื่อผลิตกาแฟ

การดื่มกาแฟนั้น มีประโยนช์ต่อคุณ

การเดินทางของ “กาแฟ”

มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกว่า การดื่มกาแฟได้ปรากฏขึ้นราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 ณ วิหารซูฟี ประเทศเยเมน ซึ่งตั้งอยู่ในแถบอาระเบีย ซึ่งถือเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้และเก่าแก่ที่สุด ซึ่งช่วงเวลานั้นผู้คนก็เริ่มปลูกต้นกาแฟขึ้นมาในยุคแรก

และแพร่ขยายออกไปในโลกอาหรับ กาแฟได้แพร่ขยายไปยังทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในระหว่างที่กาแฟเดินทางจากทวีปอเมริกาเหนือสู่ทวีปยุโรป กาแฟได้ถูกส่งผ่านไปยังซิซิลีและอิตาลีในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17

จากนั้นผ่านตุรกี ไปยังกรีซ ฮังการี และออสเตรีย แล้วต่อมาก็ได้แผ่ขยายไปยังทวีปเอเชีย โดยเฉพาะดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้เส้นศูนย์สูตร เช่น ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย

“กาแฟ” แต่ละแห่ง ต่างกันยังไง?

1. กาแฟทวีปอเมริกาใต้ : บราซิล โคลัมเบีย โบลิเวีย

สายพันธุ์กาแฟ : อาราบิก้า
รสชาติกาแฟ : ดื่มง่าย เปรี้ยวน้อย ให้ความเปรี้ยวเหมือนแอปเปิ้ลเขียว มีกลิ่นหอมกรุ่น รสชาตินุ่มนวลและมีบอดี้ที่ดีมากๆ

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มประเทศในอเมริกากลาง : กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ ปานามา
สายพันธุ์กาแฟ : อาราบิก้า, ปานามา-เกอิชา (Panama-Geisha)
รสชาติกาแฟ : ดื่มง่าย ความเปรี้ยวไม่มากไม่น้อยเกินไป รสเปรี้ยวแนวซิตรัส รสชาติมีความนุ่มหวานเหมือนช็อกโกแลตและถั่ว ให้รสอ่อนๆ ไม่ขม มีบอดี้ที่ดี และให้กลิ่นหอมอ่อนแบบผลไม้

2. กาแฟทวีปยุโรป : อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ กรีซ

สายพันธุ์กาแฟ : อาราบิก้า-เบอร์บอน (Coffea Arabica var. Bourbon)
รสชาติกาแฟ : มีความหอมหวาน รสชาติหวานที่เป็นเอกลักษณ์ และกลมกล่อม มีความเปรี้ยวไม่มากไม่น้อย เปรี้ยวแบบผลไม้ มีบอดี้ที่พอดีๆ ผลกาแฟเบอร์บอนที่สุกแล้วจะมีทั้งสีแดง เหลือง และส้ม

3. กาแฟทวีปแอฟริกา : เอธิโอเปีย เคนยา เยเมน

สายพันธุ์กาแฟ : กาแฟพื้นเมือง Heirloom, มอคคาเยเมน
รสชาติกาแฟ : มีความเปรี้ยวสูง มีความเปรี้ยวแบบเลมอน บอดี้น้อย และมีความหวานด้วย มีความนุ่มนวล มีกลิ่นหอมมาก กลิ่นหอมหวานเหมือนดอกไม้และกลิ่นส้ม ส่วนกาแฟมอคคาเยเมน มีรสชาติโกโก้อันเป็นเอกลักษณ์

4. กาแฟทวีปเอเชีย : อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ลาว

สายพันธุ์กาแฟ : อาราบิก้า โรบัสต้า กาแฟขี้ชะมด
รสชาติกาแฟ : รสชาติกลมกล่อม เข้มข้นหอมมันแบบถั่ว มีความเปรี้ยวน้อย รสเปรี้ยวแบบผลไม้ มีบอดี้แบบพอดีๆ ดื่มง่าย เบลนง่าย ในส่วนของอาราบิก้าจะมีความหอมมาก ส่วนโรบัสต้าจะมีความเข้มข้น และมีบอดี้หนักกว่าอาราบิก้า

5. กาแฟหมู่เกาะแปซิฟิก : ออสเตรเลีย ฟิจิ ฮาวาย 

สายพันธุ์กาแฟ : อาราบิก้า 5 สายพันธุ์ย่อย
รสชาติกาแฟ : มีกลิ่นที่ละเอียดอ่อน มีกลิ่นหอมหวล รสชาติกลมกล่อมนุ่มนวล มีบอดี้แบบพอดีๆ มีความเปรี้ยวน้อย มีความเป็นกรดอ่อน ดื่มง่าย 

ติดตามเรื่องราว ดื่มกาแฟอย่างไรให้ดีต่อร่างกาย

สนับสนุนโดย แทงบอล บาคาร่า PG SLOT

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น