การรักษาสุขภาพจิต เมื่อ work form home
การรักษาสุขภาพจิต เมื่อ work form home
การรักษาสุขภาพจิต เมื่อ work form home การแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้บริษัทหรือหน่วยงานต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน วิธีการทำงานใหม่ นั่นคือ Work From Home (WFH) หรือทำงานที่บ้าน ซึ่งเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
การรักษาประสิทธิภาพ การทำงานควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญ การระบาดของโควิด-19 อาจก่อให้เกิดความเครียด จากการปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต จนกระทบต่อคุณภาพชีวิต ยิ่งมีการปรับเปลี่ยน จากการทำงานในออฟฟิศ มาเป็นการทำงานที่บ้าน
อาจทำให้เกิดความวิตกกังวล ในการทำงานเพิ่มมากขึ้น บางคนอาจรู้สึกโดดเดี่ยวมากกว่าปกติ เพราะต้องแก้ปัญหา ในการทำงานด้วยตนเองเพียงลำพัง หรือบางคนอาจยาก ที่จะจดจ่อกับงาน
จนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ดังนั้น การวางแผน และการจัดการที่ดีอาจช่วยให้การทำงาน เป็นไปอย่างราบลื่น มีความสุข และมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายสุขภาพไปในเวลาเดียวกัน

เคล็ดลับต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณสามารถดำเนินวิถีชีวิต ในช่วงที่จะต้องทำงานจากที่บ้าน ได้ดียิ่งขึ้น
การทำงาน
เรื่องแรก คงหนีไม่พ้นการจัดสรรการทำงานที่บ้าน ให้ลงตัว มาดูเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ไม่แพ้กับการเข้าออฟฟิศกัน
- จัดพื้นที่เพื่อการทำงานโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ร่างกาย และสมองพร้อมกับการทำงาน และสามารถจดจ่อกับการทำงานได้ เช่น เลือกนั่งทำงานบนเก้าอี้ หรือโต๊ะทำงานที่จัดเป็นสัดส่วนแทนการนั่งทำงานที่โซฟา
- ตื่นนอน และทำกิจกรรมตอนเช้า ตามเดิม อาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนจากชุดนอนไปใส่เสื้อผ้าอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นร่างกาย ให้พร้อมกับการทำงาน
- จัดตารางการทำกิจกรรม หรือจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน และเขียนใส่ลงในกระดาษ
- กำหนดเวลาการเริ่มงาน และการเลิกงาน เพื่อป้องกันการทำงานหนัก หรือการทำงานล่วงเวลา
- พูดคุยติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น และเพื่อนร่วมงานเป็นระยะ โดยอาจสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ การโทรแบบวิดีโอ หรือการส่งข้อความอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เพื่อลดความรู้สึกโดดเดี่ยว หรือลดความวิตกกังวลลง รวมถึงยังช่วยรักษามาตรฐาน ของการทำงานไปพร้อมกันอีกทาง
- ในกรณีที่มีลูกหรือเด็กเล็กอยู่ที่บ้าน หากต้องมีการติดต่อสื่อสาร กับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ควรแจ้งอีกฝ่ายให้ทราบก่อน และจัดสรรตารางเวลาของตนเอง ให้พร้อมกับการพูดคุยงาน โดยอาจจะใช้เวลา ในช่วงที่เด็กงีบหลับระหว่างวัน
- ครอบครัวที่มีเด็กโต พอจะสื่อสารได้ คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องทำงานที่บ้านอาจจะกำหนดขอบเขต สร้างข้อตกลงกับลูกให้ชัดเจน เช่น พูดคุยกับลูก ว่าห้องนี้ห้ามเข้าในช่วงนี้ หรือกำหนดช่วงเวลา ที่สามารถพูดคุยกับลูกได้ เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไป เป็นต้น
- ระหว่างการทำงาน อาจมีการผ่อนคลายเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เช่น ลุกขึ้นเดิน ทำสมาธิในช่วงสั้น ยืดเส้นยืดสาย เมื่อนั่งทำงานติดต่อกันนาน เป็นต้น
- หลังหมดเวลางาน ควรออกจากพื้นที่การทำงาน และเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ตามปกติ โดยอาจใช้เวลา ร่วมกับครอบครัวหรือคนใกล้ชิด
การรับมือกับความเครียด

การระบาดของโคโรนาไวรัส หรือโรคโควิด-19 รวมไปถึงข่าวสารข้อมูล ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างอิสระอาจส่งผลให้ความกลัว วิตกกังวล และความเครียดเพิ่มสูงขึ้น จนอาจกระทบต่อการทำงานและการพักผ่อนร่างกาย ดังนั้น จึงควรลดการรับข้อมูลข่าวสาร ในแต่ละวัน และใช้เวลา กับการทำกิจกรรมอื่น ๆ
ให้มากขึ้นเพื่อเป็นผ่อนคลายจิตใจ หันมาพูดคุยกับครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนบ้าน โดยยังคงรักษาระยะห่างทางสังคม อยู่เสมอ หากเป็นผู้ป่วย ที่มีภาวะความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้าควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวัง ไม่ให้อาการของภาวะที่เป็นอยู่มีความรุนแรงมากขึ้น
การดูแลสุขภาพ
นอกเหนือจากการดูแลงาน และสุขภาพจิตใจ อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงควบคู่ไปด้วย ฉะนั้น หากต้องทำงานที่บ้าน เป็นเวลานานก็อย่าลืมเรื่องต่อไปนี้
- รับประทานอาหาร ให้ครบทุกมื้อเพื่อกระตุ้น การทำงานและเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการทำงาน โดยอาจวางแผน การรับประทานแต่ละมื้อ มีการกำหนดช่วงเวลาการรับประทานขนมอย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกาย ได้รับสารอาหารครบถ้วน และไม่ควรรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไป
- ควรจัดพื้นที่การทำงาน ให้อยู่ห่างจากห้องครัว และไม่ควรรับประทานอาหาร ไปพร้อม ๆ กับการทำงาน
- จำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่ม ที่มีคาเฟอีน ในแต่ละวัน และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน
- ควรแบ่งเวลาออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นการทำงาน ของระบบภูมิคุ้มกัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยกระตุ้น การทำงานของร่างกาย และไม่ทำให้ง่วงระหว่างวัน
เคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ อาจช่วยให้คุณ สามารถดูแลสุขภาพร่างกาย และรักษาประสิทธิภาพในการทำงานไปพร้อม ๆ กัน อย่างไรก็ตาม การดูแลตนเอง ครอบครัว เพื่อน ผู้ใกล้ชิดอย่างถูกวิธีและการทำความเข้าใจ ถึงความเสี่ยงของโควิด-19 อาจจะช่วยบรรเทาความตึงเครียด ที่เกิดขึ้นในระหว่าง การแพร่ระบาดของโรค ได้เป็นอย่างดี
ติดตามเรื่องราว การรับประทานผักสด หรือผักปรุงสุกดีกว่า