ฝาแฝด

ฝาแฝด กับคำถามที่พวกเขาได้เจอมาทั้งชีวิต

การตั้งครรภ์ ฝาแฝด เกิดจากความผิดปกติของการปฏิสนธิระหว่างตัวอสุจิกับไข่ และการแบ่งตัวของตัวอ่อน ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น
    – กรรมพันธุ์ ในกรณีที่ญาติฝ่ายแม่มีลูกฝาแฝด ก็จะมีโอกาสการตั้งครรภ์แฝดได้มากขึ้น
    – อายุของแม่และจำนวนครั้งของการตั้งครรภ์ โดยยิ่งแม่มีอายุมากและมีจำนวนครั้งของการตั้งครรภ์มาก ไข่ก็จะมีโอกาสตกในจำนวนมากขึ้น โอกาสการตั้งครรภ์แฝดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
    

– การกินยาคุมกำเนิด หากหยุดกินยาคุมกำเนิดหลังจากกินติดต่อกันตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ฮอร์โมนที่เคยถูกกดไว้ตอนกินยาคุมก็จะเป็นอิสระ SA Casinoทำให้แม่สามารถตกไข่ได้ทีละหลายใบ จึงมีโอกาสทำให้เกิดลูกแฝดได้
    – การนำเทคโนโลยีที่ช่วยการเจริญพันธุ์มาใช้ เช่น การผสมเทียมในหลอดแก้วหรือการทำกิฟต์ ก็จะมีโอกาสเกิดครรภ์แฝดได้เช่นกัน


ทั้งนี้เราสามารถแบ่งประเภทของ “แฝด” โดยทั่วไปได้ 2 ประเภท คือ

1. แฝดแท้ (Identical หรือ monozygotic twins)

เป็นแฝดที่เกิดจากการปฏิสนธิจากไข่ 1 ฟองและอสุจิ 1 ตัว จากนั้นเกิดการแบ่งตัวออกเป็น 2 ส่วน (หรือมากกว่า) ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมและรหัสพันธุกรรมชุดเดียวกันในช่วงสองสัปดาห์แรกหลังการปฏิสนธิ

ดังนั้นฝาแฝดประเภทนี้มักจะมีลักษณะหน้าตา เพศ รูปร่างและบุคลิกภาพต่างๆ คล้ายคลึงกันมาก แต่การตั้งครรภ์แฝดแท้จะมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้มากที่สุด ดังนั้น แม่ที่ตั้งครรภ์แฝดแท้จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

2. แฝดเทียม (Fraternal หรือ dizygotic twins)

เป็นแฝดที่เกิดจากปฏิสนธิของไข่ 2 ฟองหรือมากกว่า และอสุจิ 2 ตัวหรือมากกว่า จากนั้นมีการแยกตัวกันแล้วจึงไปฝังตัวในมดลูก ทำให้แฝดเทียมอาจมีลักษณะภายนอกที่เหมือนกันหรือต่างกันก็ได้ และอาจเป็นคนละเพศกันได้อีกด้วย

ซึ่งการตั้งครรภ์แฝดเทียมมักจะพบได้มากกว่าการตั้งครรภ์แฝดแท้ แต่จะมีภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการตั้งครรภ์แฝดแท้ โดยความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมของแฝดชนิดนี้เทียบเท่ากับพี่น้องที่เกิดในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

ฝาแฝดนอกจากจะมีหน้าตาคล้ายกันแล้ว เรารู้อะไรเกี่ยวกับฝาแฝดอีกบ้าง? หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่จริงๆ แล้วพวกเขามีอะไรที่น่าสนกว่าที่คิดซะอีก

เนื่องจากประชากรที่เป็นฝาแฝดนั้นมีเพียง 3% ของโลก ดังนั้นคนที่ฝาแฝดมักจะถูกตั้งคำถามจากคนรอบข้างมากมาย พวกเขาต้องตอบแล้วตอบอีก ดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทำความรู้จักกับฝาแฝดมากขึ้น เพื่อช่วยให้คนฝาแฝดไม่ต้องตอบคำถามทุกคน!!

ฝาแฝด

1. ลายนิ้วมือและ DNA ของฝาแฝดไม่เหมือนกัน

ฝาแฝดไม่ได้เกิดจากการโคลนนิ่ง ทำให้พวกเขามีลายนิ้วมือที่ไม่เหมือนกัน พวกเขาอาจจะเกิดจากครรภ์เดียวกันแต่ตอนอยู่ในท้องพวกเขาอยู่คนละที่กัน จึงทำให้มีเอกลักษณ์ต่างกัน

นอกจากนี้ DNA ของพวกเขาก็ไม่เหมือนกันด้วย เพราะจากการวิจัยพบว่า ฝาแฝดที่แม้จะเหมือนกันแต่พวกเขาสามารถมีลำดับ DNA ที่ต่างกัน

ส่วนฝาแฝดที่เป็นหญิง-ชาย เกิดจากความผิดพลาดโครโมโซมที่หาได้ยากมากๆ

2. ฝาแฝดไม่ได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

หลายคนเข้าในผิดเมื่อฝาแฝดมีลูกพวกเขาก็จะมีลูกแฝดอีก แต่นักวิทยาศาสตร์ออกมายืนยันว่าฝาแฝดไม่ได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ทั้งนี้ทั้งฝาแฝดสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยผู้หญิงที่มีฝาแฝดมีแนวโน้มที่จะมีลูกแฝดมากกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 2.5 เท่า

นอกจากนี้การมีฝาแฝดนั้นมักจะถ่ายทอดมาจากยีนของมารดาเป็นสำคัญ และโอกาสในการมีฝาแฝดก็ขึ้นอยู่กับอายุและวิธีการตั้งครรภ์ด้วย

3. ฝาแฝดเกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน

หากใครที่มีฝาแฝด รู้ว่าเลยว่าคุณถูกกำหนดให้มีเพื่อนที่ดีที่สุดตั้งแต่เกิดแล้ว แน่นอนว่ามีฝาแฝดนับร้อยคู่ที่ไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ แต่ฝาแฝดนั้นจะมีพันธะพิเศษที่เชื่อมพวกเขาไว้ด้วยและไม่อาจปฏิเสธได้

ส่วนสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าการใช้ห้องร่วมกัน ใส่เสื้อเหมือนกันบาคาร่า ออนไลน์ ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่คนเดียวกัน ดังนั้นจึงยากที่พวกเขาจะไม่เป็นเพื่อนกัน

4. ฝาแฝดไม่ได้เกิดมาเพื่อแข่งกัน

ฝาแฝดมักจะถูกเปรียบเทียบเสมอ จนหลายคนคิดว่ามันอาจจะทำให้พวกเขาจบลงด้วยการแข่งขันกันในทุกเรื่อง แต่ความจริงตรงข้ามกับสิ่งที่คิด

นั่นคือการแข่งขันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นพี่น้องของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตามมักจะมีคนบอกว่าฝาแฝดจะมีการแข่งขันมากกว่าพี่น้องที่ไม่ใช่ฝาแฝด

5. ฝาแฝดไม่ได้รู้ใจกันอย่างที่คิด

หลายคนคิดว่าฝาแฝดสามารถอ่านใจกันได้ แต่จากการทดลองที่ผ่านมาพบว่าพวกเขาสามารถเดาใจกันถูกเพียง 1 ครั้งเท่านั้น

แต่อีกทางหนึ่ง ก็มีฝาแฝดบางคู่บอกว่าพวกเขาจะรู้สึกได้หากมีอะไรเกิดขึ้นกับแฝดอีกคน แม้จะอยู่ไกลกันก็ตาม และพวกเขาก็มักจะตั้งครรภ์ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้บางคู่ยังอ้างว่าสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดของกันและกันได้

6. คู่แฝดคือคนละคน

แม้จะเป็นฝาแฝดแต่พวกเขาจะมีสามัญสำนึกที่ต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากฝาแฝดจะมีความชอบหรือรสนิยมที่ต่างกัน

พวกเขาอาจจะมีความชอบคล้ายกันบ้างในบางเรื่องเพราะพวกเขาถูกเลี้ยงมาในบ้านเดียวกันโดยคนคนเดียวกัน แต่ความสนใจของพวกเขามีโอกาสที่จะต่างกันได้

7. พวกเขาจะมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ภูมิใจกับการเป็นฝาแฝด

ฝาแฝดมักจะภูมิที่เกิดมามีแฝด และพวกเขาจะตื่นเต้นเมื่อเห็นคู่แฝดคู่อื่นๆ จนตอนนี้บางประเทศถึงกับมีเทศกาลสำหรับฝาแฝดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่พวกเขาเกิดมาพร้อมกันถึง 2 คน

8. แฝดที่เกิดก่อนจะมีความภูมิใจเป็นพิเศษ

คำถามที่ฝาแฝดมักจะถูกถามคือ “ใครเกิดก่อน?” และแฝดพี่มักจะเป็นคนตอบคำนี้ก่อนเสมอ เพราะแฝดบางคู่ถือว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ที่น่าภูมิใจมาก

ฝาแฝดบางคู่อาจเกิดห่างกันเป็นชั่วโมง แต่บางคนเกิดห่างกันเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นชั่วโมงหรือนาทีคนที่เกิดก่อนมักจะรู้สึกดีกว่า นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขาคิดว่าได้อยู่เหนือหัวของแฝดอีกคนตอนที่คลอดออกมาก

9. ไม่ว่าจะหน้าเหมือนหรือไม่เหมือนกันพวกเขาก็คือพี่น้องกัน

คู่แฝดบางคนมักจะถูกตั้งคำถาม ‘คุณเป็นฝาแฝดหรือเป็นพี่น้องกัน?’ ทั้งนี้เป็นเพราะฝาแฝดบางคู่ดูไม่เหมือนกัน ในขณะที่พี่น้องบางคนหน้าตาเหมือนกันเหมือนฝาแฝดเลย

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะถูกมองยังไง ฝาแฝดจะมีความรู้สึกของความเป็นน้องที่สนิทใกล้ชิด จนบางคู่อ้างว่าพวกเขาสามารถอ่านใจของกันและกันได้

10. การเลี้ยงฝาแฝดง่ายกว่าการเลี้ยงเด็กสองคนที่ไม่ใช่แฝด

เวลาเห็นใครมีลูกแฝด หลายคนอาจคิดว่าเป็นความลำบากของพ่อแม่ แต่จริงๆ แล้วนั่นอาจเป็นเรื่องดีสำหรับพ่อแม่ก็ได้ เพราะฝาแฝดมักจะเล่นด้วยกัน แทนที่พ่อแม่จะเล่นด้วย

นอกจากนี้เด็กแฝดจะเข้าโรงเรียนพร้อมกัน ทำให้พ่อแม่ได้มีเวลาพักผ่อนระหว่างลูกไม่อยู่ และลูกๆ ไม่ต้องเถียงเรื่องตื่นหรือเข้านอนด้วย เพราะพวกเขาจะทำสิ่งเหล่านี้ในเวลาเดียวกัน

11. บางอย่างมีแค่ฝาแฝดเท่านั้นจะเข้าใจ

มีการอธิบายว่า “ฝาแฝดก็คือครอบครัวหนึ่ง” หมายความว่านอกจากครอบครัวของพวกเขาแล้ว ฝาแฝดมีแนวโน้มที่จะแยกตัวตั้งครอบครัวของตัวเองได้อีกSexyslot คือพวกเขาจะมีความสัมพันธ์แบบครอบครัวย่อยของครอบครัวใหญ่

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมฝาแฝดประมาณ 40% จึงมีภาษาที่เข้าใจกันเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่จะอธิบายให้คนที่ไม่ใช่ฝาแฝดเข้าใจได้

12. ฝาแฝดต้องตอบคำถามเดิมๆ ไปจนแก่

เมื่อมีคนรู้ว่าคุณคือฝาแฝด พวกเขามักจะตั้งคำตามว่า “ฝาแฝดคืออะไร?” “พวกคุณอ่านใจกันได้มั้ย?” “คุณเคยสลับตัวกันหรือเปล่า?” “คุณเจ็บแทนกันได้มั้ย?

ติดตามเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้ที่นี่

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น