ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน กินเม็ดไหนก่อน
ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน กินเม็ดไหนก่อน
ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน กินเม็ดไหนก่อน แล้วยาคุมฉุกเฉิน ผลข้างเคียงอันตรายไหม ก่อนใช้ต้องรู้ให้ชัด เพื่อเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์อย่างไม่ได้ตั้งใจ สาว ๆ หลายคนมักจะเลือกใช้วิธีการรับประทาน “ยาคุมฉุกเฉิน” หรือยาคุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์กัน เพราะคิดว่าเป็นวิธีที่ง่าย
แต่เชื่อเถอะค่ะว่า สาว ๆ หลายคนไม่รู้จักเจ้ายาคุมฉุกเฉินดีพอ ว่า มีโทษอย่างไรบ้าง หากใช้ไม่ถูกวิธี ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องอันตรายต่อสุขภาพมากเลยล่ะ กระปุกดอทคอม จึงขอรวบรวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินมาบอกต่อสาว ๆ ให้เข้าใจกัน และระมัดระวังหากจำเป็นต้องใช้
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร
มารู้จักยาคุมฉุกเฉินกันก่อน เดิมเรียกว่า “ยาคุมกำเนิดหลังเพศสัมพันธ์” แต่ต่อมาเพื่อความเข้าใจและการใช้ที่ถูกต้องจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน” ซึ่งจริง ๆ แล้ว
หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า “ยาคุมฉุกเฉิน” แท้จริงแล้วไม่ใช่ยา แต่เป็นฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งสูงกว่ายาคุมกำเนิดโดยทั่วไปถึง 2 เท่า และมี 2 ชนิดคือ
1. ยาคุมฉุกเฉินที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว
มีชื่อทางการค้าว่า โพสตินอร์ จะมีส่วนประกอบหลักเพียงอย่างเดียว คือ ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) ขนาดเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม โดยลีโวนอร์เจสเตรลนี้จัดเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์กลุ่มเดียวกับฮอร์โมนโปรเจสโตเจน (Progestogen) มีฤทธิ์ในการยับยั้งการตกไข่

ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาขึ้นและยากต่อการฝังตัวของไข่ นอกจากนี้ ยังทำให้บริเวณปากมดลูกมีสารคัดหลั่งที่มีลักษณะเหนียวข้นออกมา จึงทำให้ตัวอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยากขึ้น ผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ่อยคือ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม และระดูมาผิดปกติ
โดยอาจมาเร็วขึ้นหรือช้าก็ได้ บางครั้งอาจพบเลือดออกกะปริบกะปรอย ดังนั้น ถ้าขาดระดูหรือระดูมากะปริบกะปรอยหลังใช้ยานี้ จำเป็นจะต้องตรวจให้ทราบว่าเป็นการตั้งครรภ์หรือเป็นผลของยา ในกรณีที่ป้องกันไม่ได้ ยังมีโอกาสตั้งครรภ์นอกมดลูกสูงกว่าปกติอีกด้วย
2. ยาคุมฉุกเฉินแบบฮอร์โมนรวม
หรือที่เรียกว่า Yuzpe regimen เป็นการใช้ฮอร์โมน Ethinyl estradiol 0.1 มิลลิกรัม และ Levonorgestrel ขนาด 0.5 มิลลิกรัม โดยยาจะไปขัดขวางการปฏิสนธิของสเปิร์มและไข่
ยับยั้งการตกไข่ หรืออาจมีผลต่อการทำงานของคอร์ปัสลูเทียมก็ได้ ทั้งนี้ วิธีนี้เป็นที่นิยมในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป แต่มีข้อเสียคือ มีผลข้างเคียงมากกว่าแบบแรก
กินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด หรือ 2 เม็ด กินตอนไหนถูกวิธี
ตามคำแนะนำบอกไว้ว่า การรับประทานยาคุมฉุกเฉินต้องกิน 2 ครั้ง โดยเม็ดแรกต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นอีก 12 ชั่วโมงจึงรับประทานยาเม็ดที่ 2 แต่ถ้าหลังจากกินยาเข้าไปแล้วไม่ว่าครั้งแรกหรือครั้งหลังแล้วเกิดการอาเจียนภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง
จะต้องกินยานั้นอีกครั้ง ทั้งนี้ วิธีการรับประทานยาข้างต้นก็เป็นวิธีการที่ถูกต้องค่ะ แต่จริง ๆ แล้ว ทางกรมอนามัย ยังได้แนะนำวิธีการกินยาคุมฉุกเฉินอีกหนึ่งวิธีซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้กัน ก็คือ ให้รับประทานทั้ง 2 เม็ดพร้อมกันใน 5 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ได้เลย
ซึ่งวิธีดังกล่าวได้รับการยอมรับในหลายประเทศ รวมทั้งองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ว่าใช้ได้ผล และเป็นการป้องกันการลืมกินยาเม็ดที่ 2 ได้ดี แต่ในประเทศไทยยังรับรู้เรื่องนี้น้อยมาก
ยาคุมฉุกเฉิน มีประสิทธิภาพเทียบเท่ายาคุมแบบปกติไหม

ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินย่อมไม่เทียบเท่ายาคุมกำเนิดปกติแน่นอน สำหรับยาคุมฉุกเฉินนั้นมีประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ราว 58-95% ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้ที่ถูกวิธีและระยะเวลาที่เริ่มใช้ด้วย แต่ยังไม่พบว่า การกินยามากกว่าขนาดที่กำหนด
จะทำให้ประโยชน์มากขึ้นหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือจะมีผลข้างเคียงมากขึ้น ทั้งนี้ หากคุณรับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้วตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ 75%
แต่หากรับประทานยาเม็ดแรกเข้าไปไม่เกิน 24 ชั่วโมง ประสิทธิภาพในการป้องกันก็จะเพิ่มขึ้นอีกถึง 10% ดังนั้นหากต้องการผลที่ชัดเจนและแน่นอนที่สุด ก็ควรจะรีบทานยาเม็ดแรกให้เร็วที่สุดนั่นเอง
ยาคุมฉุกเฉิน ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง
แน่นอนว่า การใช้ยาคุมฉุกเฉินย่อมสร้างปัญหาบางอย่างให้กับคุณผู้หญิงแน่นอน เบาะ ๆ ก็คือ จะทำให้ประจำเดือนผิดปกติ มาช้า หรือมาแบบกะปริบกะปรอย และอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน แต่หากใช้บ่อยและต่อเนื่อง ก็มีโอกาสตั้งครรภ์นอกมดลูกได้เลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้ว ข้อมูลจากแพทย์ระบุว่า ในชีวิตไม่ควรจะใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเกิน 2 ครั้ง เพราะจะมีผลกับร่างกายของผู้หญิง เช่น กระตุ้นเซลล์มะเร็ง หรือกระทบต่อรังไข่ มดลูก และร่างกายทั่วไป ซึ่งจะส่งผลทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
ติดตามเรื่องราว กระต่าย