รับประทานผักคะน้า มีประโยชน์อย่างมาก
รับประทานผักคะน้า มีประโยชน์อย่างมาก
รับประทานผักคะน้า มีประโยชน์อย่างมาก ผักคะน้า สรรพคุณไม่ธรรมดา จัดเป็นผัก เพื่อสุขภาพตัวเด็ดที่หากินง่าย ประโยชน์ของคะน้าก็ดีต่อสุขภาพอีกหลายประการ ผักใบเขียวอย่างคะน้า เป็นผักที่อยู่ในเมนูอาหารไทยหลายเมนูด้วยกัน อีกทั้งคะน้า ยังเป็นผักที่ให้ผลผลิตทุกฤดู
เรียกได้ว่า หาประโยชน์ของผักคะน้า มากินกันได้ทุกวัน แต่หากใครยังไม่รู้จักประโยชน์ของผักคะน้าว่ามีสรรพคุณดีอย่างไร วันนี้เราได้นำประโยชน์ของคะน้า ผักใบเขียวเปี่ยมคุณค่า มาบอกต่อแล้วค่ะ
คะน้า ผักใบเขียวเพื่อสุขภาพ
คะน้ามีชื่อภาษาอังกฤษว่า Chinese Kale คะน้าจัดเป็นพืชใบเขียว ที่ใบมีสีเขียวจัด และเป็นผักที่กินได้ทั้งใบไปจนถึงก้าน ผักคะน้ามีอยู่หลายชนิด ทั้งคะน้าไทย คะน้าฮ่องกง ซึ่งขนาดต้นคะน้าและความกรอบ หวาน อาจแตกต่างกัน รสชาติโดยรวมก็ยังคงเป็นผักคะน้า พืชในตะกูลเดียวกันอยู่นั่นเอง

คะน้า สารอาหารดี ๆ มีไม่น้อย
จากข้อมูลของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แสดงคุณค่าทางโภชนาการของผักคะน้าปริมาณ 100 กรัม ดังนี้
– พลังงาน 31 กิโลแคลอรี
– น้ำ 92.1 กรัม
– โปรตีน 2.7 กรัม
– ไขมัน 0.5 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต 3.8 กรัม
– ใยอาหาร 1.6 กรัม
– เถ้า 0.9 กรัม
– แคลเซียม 245 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม
– ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม
– เบต้าแคโรทีน 2,512 ไมโครกรัม
– vitamin a 419 ไมโครกรัม
– ไทอะมิน 0.05 มิลลิกรัม
– ไรโบฟลาวิน 0.08 มิลลิกรัม
– ไนอะซิน 1.0 มิลลิกรัม
– วิตามินซี 147 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของคะน้า ผักใบเขียวเปี่ยมสรรพคุณ
1. เสริมภูมิคุ้มกัน
คะน้าเป็นผักที่มี vitamin a สูง แถมยังมีวิตามินซีอีกไม่น้อย ดังนั้น ผักคะน้าจึงช่วยเพิ่มสารอาหาร ที่ดีต่อการทำงาน ของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่าง ๆ โดยลดโอกาส เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และลดความเสี่ยงอาการเจ็บป่วยโดยรวมได้
2. บำรุงสายตา สารต้านอนุมูลอิสระในผักคะน้า ที่ชื่อว่าเบต้าแคโรทีน เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ หมายความว่า สารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้ สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น vitamin a ส่งผลดี ต่อการบำรุงดูแลดวงตา
ในด้านระบบประสาท ตาและการมองเห็นได้ อีกทั้งยังมีสารลูทีน (Lutein) ซึ่งงานวิจัยพบว่า การรับประทานอาหาร ที่มีลูทีนสูง จะช่วยลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก ลงถึง 20% เลย
3. เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
จะเห็นได้ว่าคะน้า เป็นผักที่มีปริมาณแคลเซียมค่อนข้างสูง จึงจัดได้ว่าคะน้า เป็นอาหารเสริมแคลเซียมที่ดีชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่แพ้นมวัว จะหันมา รับแคลเซียมจากผักอย่างคะน้า ก็ได้

บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง
ในคะน้ามีโฟเลต และธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้ เป็นสารอาหารจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง คะน้าจึงเป็นผักใบเขียว ที่ช่วยบำรุงเลือด และลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจางได้
5. บำรุงผิวพรรณ เพิ่มคอลลาเจนให้ผิว
นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเบต้าแคโรทีนแล้ว ในผักคะน้ารวมไปถึงผักใบเขียวทุกชนิดยังมีสารลูทีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ในเซลล์ผิว ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน
ไร้ริ้วรอยแห่งวัย โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี หรือกระบวนการศัลยกรรมใด ๆ อีกทั้งวิตามินซีในผักคะน้ายังจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย

6. ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
ผักคะน้ามีไฟเบอร์สูงมาก โดยเฉพาะในส่วนของใบคะน้า ดังนั้น การรับประทานผักคะน้าในปริมาณที่เหมาะสม ก็มีส่วนช่วยเพิ่มใยอาหารให้ลำไส้ กระตุ้นระบบขับถ่ายให้มีความคล่องตัวมากขึ้นได้เหมือนกัน
7. ลดความเสี่ยงมะเร็ง
คะน้าเป็นผักที่มี vitamin a และสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ซึ่ง vitamin a ที่เราได้จากคะน้ามีคุณสมบัติ เป็นสารต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด
และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และยังมี vitamin a ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดโอกาสเกิดการอักเสบ ของเนื้อเยื่อและเซลล์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ติดตามเรื่องราว Carnivore Diet วิธีลดน้ำหนักทำให้คุณผอมเร็วแน่นนอน