หากเป็นโรคภูิมแพ้ สามารถฉัดวัคซีนได้หรือไม่
หากเป็นโรคภูิมแพ้ สามารถฉัดวัคซีนได้หรือไม่
หากเป็นโรคภูิมแพ้ สามารถฉัดวัคซีนได้หรือไม่ ทุกคนทราบดีว่าการฉีดวัคซีนโควิด 19 เป็นหนทางที่จะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดในสังคม หรือหากพลาดพลั้งติดเชื้อขึ้นมาก็ยังช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ดังนั้น จึงตัดสินใจจะฉีดวัคซีน
แต่สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับภูมิแพ้ หอบหืด รวมทั้งอาการแพ้ต่าง ๆ คงมีความกังวลอยู่บ้างว่า จะสามารถฉีดวัคซีนได้ไหม แล้วจะมีโอกาสแพ้วัคซีนมากกว่าคนทั่วไปหรือเปล่า ใครยังไม่แน่ใจ ตามมาหาคำตอบของเรื่องนี้กัน

ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะแพ้อากาศ หรือแพ้รุนแรงต่อสารอื่นที่ไม่ใช่องค์ประกอบของวัคซีนโควิด สามารถฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการแพ้วัคซีน ยกเว้นผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งอาจมีความเสี่ยงจากวัคซีน
เนื่องจากในวัคซีนอาจมีสารประกอบที่ใกล้เคียงกันกับวัคซีนตัวอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น Polyethylene glycol (PEG) หรือ Polysorbate อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็นต้องได้รับวัคซีน ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคภูมิแพ้ก่อนรับวัคซีนหอบหืด ฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม
โรคหอบหืดก็ไม่ใช่ข้อห้ามของการฉีดวัคซีนโควิดเช่นกันค่ะ สามารถฉีดวัคซีนได้ และไม่จำเป็นต้องหยุดยาสูดสเตียรอยด์และยาประจำตัวโรคหืดก่อนไปฉีดวัคซีน แต่จะมีผู้ป่วยบางกลุ่มที่ควรระวังคือ
– ผู้ป่วยโรคหืดที่ได้รับยาชีวโมเลกุล เช่น Omalizumab, Benralizumab, Dupilumab ควรฉีดวัคซีนโควิด ห่างจากการได้รับยาชีวโมเลกุล เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน
– ผู้ป่วยโรคหืดที่ยังควบคุมอาการไม่ได้ คือ มีอาการกำเริบจนต้องใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทานหรือฉีด ควรควบคุมอาการให้สงบก่อนฉีดวัคซีน
ส่วนในผู้ป่วยเด็กจะไม่สามารถฉีดวัคซีนโควิดได้ เนื่องจากวัคซีนยังไม่ได้ทำการทดสอบในเด็ก และเด็กก็ไม่ได้เสี่ยงต่ออาการติดเชื้อรุนแรงเหมือนผู้สูงอายุ จึงควรป้องกันโรค COVID-19 ด้วยการใช้ยาป้องกันหืดสม่ำเสมอ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ

แม้จะมีประวัติแพ้อาหาร เช่น อาหารทะเล นม ไข่ ถั่วลิสง แป้งสาลี หรืออาหารอื่น ๆ ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ตามปกติ เนื่องจากวัคซีนไม่ได้ผลิตจากอาหารทะเล หรือไข่ จึงปลอดภัยต่อคนที่มีประวัติแพ้อาหาร
แต่ถ้าเป็นคนที่มีอาการแพ้อาหารในขั้นรุนแรงถึงขั้นหายใจติดขัด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน ถ้าแพทย์พิจารณาว่าสามารถฉีดวัคซีนโควิดได้ ให้สังเกตอาการเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิดใน 30 นาทีแพ้ยา ฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม
ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา ไม่ว่าจะเป็นยาปฏิชีวนะ เช่น ยาเพนิซิลลิน ยาซัลฟา หรือยาแก้ปวดลดไข้ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน เป็นต้น รวมทั้งยาชนิดอื่น ๆ หรือมีประวัติแพ้สารทึบรังสี ถ้าเป็นการแพ้ที่มีผื่นอย่างเดียวที่ไม่รุนแรง โดยไม่มีอาการของระบบอื่น ๆ ร่วมด้วย
และไม่เข้าเกณฑ์แพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) สามารถฉีดวัคซีนโควิดได้ตามปกติ โดยอาจกินยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่มีอาการง่วงนอน เช่น เซทิริซีน (Cetirizine), ลอราทาดีน (Loratadine), เดสลอราทาดีน (Desloratadine), เลโวซิทีริซีน (Levocetirizine) หรือไบแลกซ์เทน (Bilaxten) ก่อนฉีดวัคซีน 30 นาที
กรณีแพ้ยาอย่างรุนแรง (Anaphylaxis) ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน ถ้าแพทย์พิจารณาว่าสามารถฉีดวัคซีนโควิดได้ ให้สังเกตอาการเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิดใน 30 นาทีเคยแพ้วัคซีนชนิดอื่น ฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม
คนที่เคยแพ้วัคซีนป้องกันโรคชนิดใดชนิดหนึ่งแบบรุนแรงมาก่อน หากไม่ใช่ส่วนประกอบของวัคซีนโควิดสามารถฉีดได้ แต่เพื่อความแน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนโควิด เพื่อรับการประเมินและดูแลอย่างเหมาะสมในการฉีดวัคซีน โดยแนะนำให้ตรวจสอบส่วนประกอบของวัคซีนที่เคยแพ้และฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ไม่มีส่วนประกอบนั้น
ทั้งนี้ การแพ้วัคซีนแบบรุนแรง (Anaphylaxis) หมายถึง อาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน หรือภายใน 2 ชั่วโมง หลังฉีดวัคซีน (ส่วนใหญ่เกิดภายใน 30 นาที หลังฉีดวัคซีน) ได้แก่ ผื่นลมพิษทั่วตัว หรือมีการบวมของปาก/เปลือกตา ร่วมกับหายใจเสียงหวีด ความดันโลหิตต่ำ ถ่ายเหลว อาเจียน เป็นต้นถ้าแพ้วัคซีนโควิดเข็มแรกแล้ว จะฉีดเข็ม 2 ได้หรือไม่

สำหรับคนฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วมีอาการไม่พึงประสงค์ที่ไม่รุนแรง เช่น ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย มีผื่นเล็กน้อย สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ชนิดเดิมได้ แต่ถ้าคนที่ฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกแล้วมีอาการแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
เช่น มีผื่นลมพิษทั่วตัว คัน ปากบวม ลิ้นบวม เสียงแหบ หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด ความดันลดลง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพื่อหาสาเหตุว่าอาการแพ้ชนิดรุนแรงเป็นจากอะไร และเปลี่ยนวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นอีกยี่ห้อที่มีส่วนผสมที่ต่างจากวัคซีนเข็มแรก
ติดตามเรื่องราว ก่อนฉัดวัคซีน ต้องหยุดกินยาคุมก่อนไหม