อินทผลัม ผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์
อินทผลัม ผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์
อินทผลัม ผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ คนคงเคยเห็นเจ้าผลไม้ตากแห้ง ที่มีชื่อว่า “อินทผลัม” หรือที่หลายคนเรียก “อินทผาลัม” ซี่งมีลักษณะเป็นผลรี ๆ เล็ก ๆ แห้ง ๆ สีน้ำตาลเข้ม วางขายอยู่ตามแผนกผลไม้ตากแห้งกัน หลายคน อาจจะคิดว่า มันเป็นแค่เพียงผลไม้ตากแห้งธรรมดา
ไม่มีความพิเศษอะไร แต่ที่จริงแล้วเจ้าอินทผลัมนี้ นอกจากจะเป็นผลไม้ต่างถิ่นที่มีราคาค่อนข้างสูงแล้ว ยังมีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพอีกด้วย ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับอินทผลัมกันดีกว่าค่ะ
อินทผลัม กับต้นกำเนิดจากแดนไกล
อินทผลัม หรือ อินทผาลัม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Date Palm และมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Phoenix dactylifera เป็นพืชในตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีหลากหลายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง
สามารถเจริญเติบโตได้ดีในภูมิภาคที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งแบบทะเลทราย โดยผู้ผลิตอินทผลัมรายใหญ่ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย แอลจีเรีย และประเทศในแถบอาหรับ อินทผลัมเป็นผลไม้ที่มีปลูกในประเทศไทยเป็นจำนวนน้อย
เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อนชื้น ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าอินทผลัมควบคู่ไปด้วย ซึ่งอินทผลัมส่วนใหญ่ที่นำเข้ามักอยู่ในรูปทั้งผลไม้สดและแปรรูปแล้ว

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของอินทผลัม
อินทผลัมเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลปาล์ม มีความสูงประมาณ 30 เมตร ลำต้นมีขนาดประมาณ 30-50 เซนติเมตร มีใบติดอยู่บนต้นประมาณ 40-60 ก้าน ทางใบยาว 3-4 เมตร ใบเป็นแบบขนนก ใบย่อยพุ่งออกหลายทิศทาง ช่อดอกจะออกจากโคนใบ ผลทรงกลมรี ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร
ออกเป็นช่อรสหวานฉ่ำ ต้นอินทผลัมจะเริ่มให้ผลครั้งแรกเมื่ออายุ 5–7 ปี และมีอายุยืนยาวถึงกว่า 100 ปี โดยจะให้ผลผลิตต่อปีเฉลี่ยประมาณ 7,000–8,000 ลูกต่อปี หรือประมาณ 100–150 กิโลกรัม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของต้น อินทผลัมสามารถกินได้ทั้งผลดิบ
และสุก โดยผลจะมีสีเหลืองจนถึงสีส้มและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้มเมื่อแก่จัด ผลสุกจัดมักนิยมนำไปตากแห้ง ทำให้สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลาหลายปี และมักมีคนเข้าใจผิดว่ารสหวานจัดของอินทผลัมนั้นเกิดจากการแปรรูปด้วยการนำไปเชื่อมด้วยน้ำตาล

อินทผลัมเป็นผลไม้ที่มีหลากหลายพันธุ์เช่นเดียวกับผลไม้ชนิดอื่น ๆ โดยแต่ละสายพันธุ์ก็มีเกรด ราคา รวมทั้งรสชาติแตกต่างกันด้วย ซึ่งพันธุ์ที่นิยมปลูกกันนั้น ได้แก่
– พันธุ์ Barhee หรือ Barhi (บาร์ฮี หรือ “บัรฮี) เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการรับประทานผลสดโดยเฉพาะ มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิรัก ปัจจุบันมีการปลูกกันแพร่หลายในหลายประเทศ กล่าวกันว่า พันธุ์ Barhi เป็น “แอบเปิลแห่งตะวันออกกลาง”
– พันธุ์ Deglet Nour (เดกเล็ท นัวร์) เป็นพันธุ์รับประทานผลแห้ง มีแหล่งกำเนิดจากประเทศแอลจีเรียและประเทศตูนิเซีย ในวงการอินทผลัมถือว่าเป็น “ราชินีแห่งอินทผลัม”
เป็นพันธุ์ที่นิยมส่งออกไปขายต่างประเทศทั่วโลกมากที่สุด รสชาติไม่หวานมาก หวานปนมัน ไม่แข็งกระด้าง เหนียวไม่มาก เนื้อนุ่ม
– พันธุ์ Medjool หรือ Medjhol หรือ Medjull (เมดจูล) บางครั้งเรียกว่า Ambatt (อัมบาต) หรือที่เรียกกันว่า “พันธุ์ ๗ เม็ดศอก” เพราะเป็นพันธุ์ที่มีผลขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้ เป็นพันธุ์รับประทานผลแห้ง มีแหล่งกำเนิดในประเทศโมร็อกโก
ในวงการอินทผลัมถือว่าเป็น “ราชาแห่งอินทผลัม” เป็นพันธุ์ดีที่นิยมส่งขายไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน เนื้อนุ่ม เนื้อทราย รสชาติหวานฉ่ำ และหวานมาก ๆ
– พันธุ์ Ajwa หรือ Ajwah (อัจวะ หรือ อัจวะห์ หรือออกเสียงเร็ว ๆ ว่า “อัจ – จะ – วะห์) เป็นพันธุ์รับประทานผลแห้ง มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นพันธุ์ที่ปรากฏในคัมภีร์ของอัลกุรอานของศาสนาอิสลาม
เนื้อเหนียว หนึบ เมื่อแก่ใหม่ ๆ รสชาติจะนุ่ม ไม่หวานเหมือนความหวานของอินทผลัมพันธุ์อื่น หวานหอมลงคอ
– พันธุ์ Mabroom (อ่านว่า มับรูป หรืออ่านออกเสียงเร็ว ๆ ว่า มับ – บะ – รูม) แหล่งกำเนิดที่มีชื่อเสียงมาจากเมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
– พันธุ์ Zahidi – Zehdi – Zahdi (อ่านว่า ซาฮิดิ) มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิรักและอิหร่าน

อินทผลัม สรรพคุณอันน่าอัศจรรย์ กับคุณค่าทางโภชนาการ
ไม้ที่ไม่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ นอกจากนี้เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ Vitamin A, Vitamin B1, Vitamin B2, Vitamin B6, Vitamin K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานีส, แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไทล์ แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์
ติดตามเรื่องราว สูตรอาหารคลีน สร้างหุ่นที่ดี