social media อันตรายกว่าที่คิด

social media อันตรายกว่าที่คิด

social media อันตรายกว่าที่คิด ข้อมูลส่วนตัวที่มีโอกาสรั่วไหล ในโลกออนไลน์ หากจำได้ ครั้งแรกที่เราสมัครเข้าใช้งาน Facebook เราจะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลมากมายหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เพศ อีเมล เมื่อได้บัญชีแล้วจะต้องใส่รูปภาพ ต้องใส่เมืองที่อยู่ ใส่สถานภาพ ใส่งานอดิเรก

ใส่กิจกรรมที่สนใจ เหตุการณ์ในชีวิต ประวัติการศึกษา ฯลฯ นั่นหมายความว่า ถ้าเรากรอกข้อมูลจริงทั้งหมด แล้วถูกโจรกรรมข้อมูล มิจฉาชีพจะได้ข้อมูลทุกอย่างในชีวิตเราทันที คือ

  • ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
  • ข้อมูลบนโปรไฟล์โซเชียลมีเดีย
  • ความสนใจ กิจกรรมที่ทำ สิ่งที่ติดตามและมีปฏิสัมพันธ์
  • เบอร์โทรศัพท์
  • วันเดือนปีเกิด
  • เลขบัตรประจำตัวประชาชน
  • ประวัติการศึกษา
  • ที่อยู่

เมื่อข้อมูลเหล่านี้หลุดไปสู่มือมิจฉาชีพแล้ว ต้องตระหนักไว้เสมอว่า “มิจฉาชีพเหล่านี้คือผู้เชี่ยวชาญในการโจรกรรมข้อมูลออนไลน์” แปลว่า คนกลุ่มนี้มีความสามารถในการเข้าถึงสิ่งที่เป็นความลับที่อยู่บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลอะไรก็สามารถนำไปใช้ได้หมด หรือจะนำไปขายต่อในตลาดมิจฉาชีพก็ยังได้

social media อันตรายกว่าที่คิด

ลักษณะความเสียหายจากการที่ข้อมูลถูกโจรกรรม

ปลอมแปลงบัญชี เมื่อมิจฉาชีพได้ข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ สามารถนำข้อมูลไปปลอมแปลงเป็นบัญชีใหม่ด้วยข้อมูลของเหยื่อไปแอบอ้างหลอกลวงผู้อื่น หรือแอบอ้างว่าเป็นตัวเหยื่อเองเพื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ หากถูกดำเนินคดี ผู้ที่เดือดร้อนคือเหยื่อ เพราะนั่นเป็นข้อมูลของเหยื่อ

การนำข้อมูลไปใช้ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล นำไปใช้ในทางที่ผิด (หากเป็นของเด็กก็ละเมิดสิทธิเด็กด้วย) ข้อมูลที่นำไปอย่างเช่น ภาพถ่าย ชื่อ-นามสกุลจริง แล้วนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรม

การโดนขโมย Account หากเหยื่อถูกโจมตีทางระบบ มิจฉาชีพเจาะระบบเข้ามาได้ ข้อมูลเราที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์นั้น ๆ จะหลุดออกไปทันที ลักษณะนี้เหมือนการถูกขโมยตัวตนในโลกออนไลน์ เพราะข้อมูลที่หลุดออกไปเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปทำอะไรก็ได้ และจะสร้างความเสียหายมหาศาลหากข้อมูลนี้ถูกนำไปขายต่อ

เลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นข้อมูลที่อันตรายมาก เนื่องจากการทำธุรกรรมทางการเงิน การติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น หน่วยงานราชการ จำเป็นต้องใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนในการยืนยันตัวตน หากมิจฉาชีพได้ข้อมูลเหยื่อมา

จะนำเลขนี้ไปใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ แทนเหยื่อ อย่างไรก็ตาม หากมิจฉาชีพได้ข้อมูลอื่นด้วย เช่น วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ จะทำให้มีโอกาสถูกเดารหัสผ่านด้วย เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้รหัสผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ดัดแปลงมาจากเลขเหล่านี้

การโดนไวรัสที่แฝงตัวมากับไฟล์ อาจทำให้ข้อมูลเสียหาย ข้อมูลต้องเข้ารหัสเพื่อเรียกค่าไถ่ การเข้าถึงข้อมูลทางการเงิน หรือการหลอกขอข้อมูลส่วนตัวจากไฟล์ที่เหยื่อถูกหลอกให้กรอก

ทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย

จริง ๆ แล้วต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ข้อมูลที่ถูกนำขึ้นระบบออนไลน์ จะไม่ใช่ข้อมูลความลับหรือข้อมูลส่วนตัวอีกต่อไป เพราะถ้ามีการแฮกข้อมูล มีโอกาสที่ข้อมูลจะรั่วไหลสูงมาก ดังนั้น การสมัครใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันใด ๆ ก็แล้วแต่ที่เข้าผ่านอินเทอร์เน็ต

“ไม่มีทางที่จะปลอดภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” อย่างน้อยที่สุด ข้อมูลของเราจะอยู่กับผู้ให้บริการเครือข่าย ที่สำคัญมิจฉาชีพสามารถดึงเอาข้อมูลนี้จากที่ไหนก็ได้บนโลก ดังนั้น ควรมีการป้องกันตัวเองเบื้องต้น ดังนี้

ตั้งรหัสที่คาดเดายาก ไม่ใช้ซ้ำ หมั่นเปลี่ยนรหัส

จำเป็นมากที่ต้องตั้งรหัสที่คาดเดายาก เข้าถึงยาก ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอยู่เสมอเพื่อป้องกันการคาดเดา ที่สำคัญ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้รหัสเดิมในการเข้าถึงทุกเว็บไซต์ และไม่ควรบอกรหัสส่วนตัวนี้ให้ใครทราบ

หมั่นอัปเดตระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ใช้งานให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน

เวลาที่ระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ใช้งานที่มีการอัปเดต คือการปรับปรุงข้อบกพร่องจากเวอร์ชันก่อน ซึ่งถ้าหากมีข้อผิดพลาด ความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่ปลอดภัย ก็จะได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

ไม่จำเป็น อย่าใช้ Wi-Fi ฟรีสาธารณะ

หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะในการใช้งานออนไลน์ของตัวเอง เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่า Wi-Fi สาธารณะนั้นปลอดภัยหรือไม่ หรือเป็น Wi-Fi ปลอมที่ไว้ดักจับข้อมูลเหยื่อ

ตั้งค่าความปลอดภัยให้แน่นหนา

“สบายเรา สบายเขา” สิ่งที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้สบายขึ้น ก็ทำให้ผู้อื่นเข้าถึงได้ง่ายด้วยเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น การตั้งรหัสผ่านง่าย ๆ ที่คนที่รู้จักกันก็พอจะเดาออก หรือการสแกนลายนิ้วมืออันตรายกว่ารหัสผ่านแบบวาดภาพ เพราะมิจฉาชีพยังสามารถใช้นิ้วมือของเราในการปลดล็อกโทรศัพท์ได้

คิดก่อนโพสต์

สังคมโซเชียลมีเดีย หลาย ๆ คนมักโพสต์ชีวิตส่วนตัวลงบนโลกออนไลน์และเปิดสาธารณะ นี่จึงเป็นการแบ่งปันข้อมูลชีวิตประจำวันของตนเอง ทำให้มิจฉาชีพคาดเดาพฤติกรรม คาดเดาช่วงเวลา

คาดเดาสถานที่ที่เรามักโพสต์ลงเป็นประจำ และห้ามโพสต์รูปภาพบัตรต่าง ๆ ที่มีตัวเลขสำคัญเด็ดขาด เพราะมิจฉาชีพมีวิธีในการเข้าถึงข้อมูลของเราได้ หรือใช้แอบอ้างหลอกขอข้อมูลเพิ่มเติม

ตรวจสอบประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ตของตัวเอง

เมื่อใดก็ตามที่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เช่น ถูกปิดกั้นการเข้าถึงบางอย่าง มีแอปพลิเคชันแปลก ๆ มีลิงก์แปลก ๆ ถูกส่งเข้ามา หรือมีคนแปลกหน้าที่ไม่มีเพื่อนร่วมกันเลยส่งคำร้องมา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจมีการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ปลอดภัย

พยายามอย่าผูกการใช้งานบัญชีต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

เพราะเมื่อใดก็ตามที่บัญชีใดบัญชีหนึ่งถูกเข้าถึง มีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกลิงก์ไปยังบัญชีอื่น ๆ ที่ผูกเข้าไว้ด้วยกัน นั่นเท่ากับว่าเราช่วยให้มิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลของเราได้ง่ายขึ้น เข้าได้บัญชีเดียว ก็สามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้งานเว็บไซต์อื่น ๆ

การมีตัวตนในโลกออนไลน์ จึงเป็นสิ่งที่เราควรระมัดระวังและพิจารณาให้ถี่ถ้วน อย่าคิดว่าโลกออนไลน์เป็นพื้นที่ส่วนตัว ตราบใดที่มีข้อมูลสามารถเห็นได้โดยสาธารณชน และมีผูกบัญชีใช้งานกับคนทั่วโลก

ข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวอีกต่อไป เพราะนี่คือเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เชื่อมโยงหากันหมดด้วยอินเทอร์เน็ต แค่เข้าโลกออนไลน์ มิจฉาชีพก็ได้ข้อมูลทุกอย่างของเราในชั่วเสี้ยววินาที

ติดตามเรื่องราว ควรระวัง ข้อมูลส่วนตัวในโลกออนไลน์

สนับสนุนโดย Joker SlotSa gameSexy GameJoker GameUFABET 72EsportSa gamingSexy gaming, Sa gamingjoker gaming, Joker slot , Slot gameJoker slot, Joker slot

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *